การรับสารด้วยการอ่าน
การอ่านเก็บความรู้
คำชี้แจง
ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วสรุปใจความสำคัญด้านความรู้ที่ได้รับจากการอ่าน
ความยาว 5 – 6 บรรทัด
เรื่อง
ยังไม่สายหากจะตัดอาการเสพติดอีเมล
ในโลกที่เทคโนโลยีการสื่อสารกว้างไกล การใช้อินเทอร์เน็ตทั้งเพื่อหาข้อมูลและการสื่อสารผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมลที่ทำให้ติดต่อกันข้ามโลกในเวลาอันรวดเร็วนั้นกลับจะยิ่งกลายเป็นสร้างปัญหาสำหรับบางคนได้ไม่รู้ตัว หากมีคนถามว่า “คุณเช็คอีเมลครั้งสุดท้ายเมื่อไร”
แล้วคำตอบก็คือ 15
นาทีที่แล้ว คุณก็เป็นเช่นเดียวกับอเมริกันชนส่วนใหญ่ที่เป็นแบบนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่เวลางานก็ตามที
และถ้าเป็นคนที่พกอุปกรณ์ดิจิทัลช่วยจัดการข้อมูลส่วนตัวหรือพีดีเอ อาจยิ่งรุนแรงกว่านั้น เจอาร์
ราฟาเอล
จากนิตยสารพีซีเวิลด์เขียนไว้ในพีซี
เวิล์ด บล็อกเกอร์ แนะนำว่าการที่จะเริ่มอาการเสพติดอีเมลนั้นสามารถทำได้ โดยขั้นแรกให้บอกกับตัวเองว่า ไม่มีอีเมลใดที่จะทำลายตัวเองลง หากไม่ได้เปิดอ่านทันที พึงระลึกไว้ว่าหากมีเรื่องด่วนสุดๆ คนที่ส่งข้อความมาก็คงโทรศัพท์ หรือทำอย่างไรก้ได้ให้ถึงตัวคุณโดยเร็วที่สุด
ควรจำกัดเวลาที่จะรับหรือส่งอีเมล สมมติว่าถึงบ้านตอน 6 โมงเย็น
แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ก็ต้องปิดเครื่องประมาณ 1 ทุ่ม
ลองทำดูแล้วจะรู้ว่าชีวิตจริงๆได้กลับคืนมา
หรือมิเช่นนั้นก็อาจจะกำหนดเวลาระหว่างวันว่าจะเปิดอ่านอีเมลในช่วงเวลาใดบ้าง แล้วทำให้ได้ตามนั้น อาจจะเป็น 10 นาที ช่วงเช้า
10 นาทีตอนเที่ยง
และอีก 10 นาที ตอนกลางของช่วงบ่าย
แล้วต้องทำตามกำหนดเวลานั้น
คุณจะแปลกใจที่ได้พบว่ามีเวลาเพิ่มขึ้น
ในหนึ่งสัปดาห์ควรมีเวลาที่จะหยุดรับส่งอีเมลสักหนึ่งวัน แล้วหันไปหาสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ถ้าหากคิดว่าจะโหดร้ายเกินไป อาจเริ่มจากการอนุญาตให้เปิดอีเมลได้ 5 นาที ในเช้าวันเสาร์
จากนั้นให้เวลาที่เหลือตลอดทั้งวันเป็นวันปลอดอีเมล
เรื่อง อยากฝันหวานต้องดมกุหลาบ
กลิ่นช่วยวาดความฝันให้ดีหรือฝันร้ายได้ นักวิทยาศาสตร์เมืองเบียร์แนะนำว่า ถ้าหากอยากนอนหลับฝันหวาน ต้องหาดอกไม้กลิ่นหอมๆไว้ในห้องนอน
พวกเขาได้พบในการศึกษาทดลองกับอาสาสมัครที่กำลังหลับลึก
ซึ่งเป็นช่วงที่คนเรามักจะฝันแล้วเอาดอกไม้หอมๆไปแกว่งล่อที่จมูกนานสัก 10 วินาที แล้วจึงปลุก
หลังจากนั้น 1 นาที ให้เล่าความฝันโดยละเอียดให้ฟัง
ศาสตราจารย์บอริส สตัค แห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมันไฮม์ หัวหน้าคณะนักวิจัยรายงานต่อที่ประชุมแพทย์โสตศอนาสิกแห่งอเมริกาว่า
อาจเป็นได้ว่ากลิ่นหอมอาจช่วยให้คนเราฝันดีขึ้นได้เพราะเมื่อทดลองใช้กลิ่นเหม็นๆ
เช่น ไข่เน่าให้ดม
อาสาสมัครกลับฝันร้ายขึ้นจึงคิดจะไปศึกษาต่อกับผู้ที่นอนฝันร้ายบ่อยดูบ้าง
ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการศึกษาพบว่าสิ่งกระตุ้นประสาทอย่างอื่น
เสียง อาการสั่นไหว ความกดบีบ
ก็มีอิทธิพลต่อเรื่องและอารมณ์ความรู้สึกของความฝันเหมือนกัน
(ไทยรัฐ : 25 กันยายน
2551)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น